เจ้าหน้าที่ ตม. ของประเทศเกาหลี !! แค่ได้ยินชื่อนี้หลายคนที่อยากไปเที่ยวเกาหลีก็เกรงขึ้นมานิดๆ พร้อมกลัวหน่อยๆ ว่ามันจะยุ่งยากมากแค่ไหนกว่าจะผ่านไปได้ เพราะข่าวบ้านเราที่ออกมารัวๆ เกี่ยวกับมีคนไทยใช้วีซ่านักท่องเที่ยวแต่ดันกลับไปทำงานที่ประเทศเกาหลีแทนจนบริษัททัวร์เดือดร้อน หรือข่าวตำรวจเกาหลีจับคนไทยได้ในขณะที่ขายยาบ้าให้คนที่เกาหลี และนี่คือตัวอย่างของเหตุการณ์ย่อยๆ ที่ทำให้ใครก็ตามต่างที่ต้องการเข้าไปเที่ยว หรือไปที่ประเทศเกาหลีต้องเตรียมตัวให้พร้อมมากขึ้นกว่าเดิม
2. เอกสาร และสิ่งที่ควรพกติดตัว
2.1 ใบบุ๊คกิ้งเครื่องบินขากลับ เพื่อยืนยันวันเดินทางกลับของเราว่าชั้นกลับแน่ๆ จ้ะ no worries
2.2 ใบจองโรงแรม มีชื่อเรา รวมถึงระบุชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรโรงแรม รวมถึงระบุวันที่ชัดเจน ว่าเราพักตั้งแต่วันไหน ถึงวันไหน เพื่อยืนยันว่ามาเที่ยว มีที่พักเรียบร้อย สามารถตรวจสอบกับทางโรงแรมได้เลย
2.3 จม. รับรองการทำงาน, นามบัตร ถ้าเป็น freelance ให้ถ่ายรูปในตอนที่เราทำงานไว้หลายๆ รูปในโทรศัพท์ค่ะ หรือถ้าเป็นแม่ค้าออนไลน์ก็ปริ๊นหน้าเว็บที่เราขายของเลยค่ะ เพื่อยืนยันว่าเรามีงานทำ มีรายได้ ไม่แอบมาทำงานในประเทศ คุณหรอก กรณีเป็นนักเรียนให้พกบัตรนักศึกษาไปด้วยค่ะ
2.4 เงินสด และบัตรเครดิต (ถ้ามี) เพื่อแสดงว่าชั้นมีเงินมาเที่ยวนะจ๊ะ ครอบคลุมค่าใช้จ่ายเพียงพอกับจำนวนวันที่จะมาเที่ยว
2.5 แผนการเดินทาง ว่าเรามีแพลนจะไปเที่ยวไหนบ้าง ในแต่ละวัน
2.6. ถ้าไปกันเป็นกลุ่ม ควรถ่ายรูปพาสปอร์ตของคนที่เราไปด้วยไว้ในโทรศัพท์ และถ่ายรูปด้วยกันไว้บ้างค่ะ
3. ทริคการผ่านด่าน ตม.
3.1 ไม่เล่นโทรศัพท์ ไม่ถ่ายรูป และคุยกันระหว่างรอคิวค่ะ (มีป้ายขึ้นเลยนะคะ ว่า No photo, No mobile)
3.2 ถ้ามาเป็นกลุ่มให้ต่อแถวเดียวกัน เพื่อที่เราจะได้คุยกับเจ้าหน้าที่ ตม. คนเดียวกัน และบอกได้ว่ามากับคนข้างหน้า/ ข้างหลังนะ แบบว่ามีคนมาด้วยกันจริง ไม่ได้มโนค่ะ และถ้าคนแรกในกลุ่มผ่านเข้าไปแล้ว คนต่อไปจะมีโอกาสผ่านสูงเลยค่ะ ถ้าเราต่อคนละแถวเพื่อนเราอาจจะผ่านเข้าไปแล้วกับเจ้าหน้าที่คนอื่น เค้าอาจจะไม่เห็นค่ะว่าเรามาด้วยกันจริงๆ
3.3 เดินเข้าไปเจอเจ้าหน้าที่ให้ ยิ้ม และทักทาย Hello ซักนิด เพื่อสร้าง First impession ค่ะ (จิตวิทยา หรา!) อันนี่ส่วนตัวคิดว่าช่วยได้นิดนึงนะคะ พอยิ้มให้ และทักทายนิดหน่อย ขุ่นพี่ ตม. เค้ายิ้มนิดๆ ตอบเราค่ะ และหน้าเค้าดู relax ขึ้น จากตอนแรกหน้าเครียดๆ และดูโหดๆ (อยากจะบอกพี่ ตม. ว่าหนูเครียดกว่าพี่อี๊กกก จะได้เข้าไหม เกาหลีเนี่ย แต่ยิ้มสู้ค่ะ ^^)
3.4 เตรียมตัวตอบคำถามเป็นภาษาอังกฤษ ถามอะไรมาควรตอบไปเลยทันที อย่าอึกอักค่ะ ไม่ต้องถึงกับภาษาเป๊ะเว่อร์ แต่สื่อสารให้เค้าพอเข้าใจได้ และรีบตอบออกไปเลย ถ้าเราคิดนานเค้าอาจจะคิดว่าเราไม่ได้พูดเรื่องจริงค่ะ (เพราะเรื่องจริงไม่ต้องคิดเยอะ)
และลำดับการเดินเข้าแถวเพื่อตอบคำถาม ตม. หากไปกันเป็นกลุ่มควรต่อแถวเดียวกันเผื่อให้ง่ายต่อเจ้าหน้าที่ในการถามว่าใครมากับใคร เพราะข้อมูลที่เจ้าหน้าที่เกาหลีได้รับมันจะต่อเนื่องเพราะเป็นเจ้าหน้าที่คนเดียวกัน และถ้าคนแรกผ่านคนต่อไปก็น่าจะผ่านง่ายขึ้นค่ะเพราะมาด้วยกัน
และคำถามที่คุณ สมาชิกหมายเลข 3914383 เจอก็คือ...
ตม. : Who do you come with? (คุณมากับใคร)
เรา : My sister and my niece. (พี่สาว และหลาน)
ตม. : Why your last name and your sister’s last name are different?
(ทำไมนามสกุลของคุณ และพี่สาวไม่ตรงกัน)
เรา : Because she got married.
(เพราะว่าพี่แต่งงาน)
ตม. : Why the place of birth in your passport and your address in arrival card are different?
(ทำไมสถานที่เกิดใน พาสปอร์ต ไม่ตรงกับที่อยู่ในบัตรขาเข้า)
เรา : I was born in Bangkok but now I move to Kanchanaburi.
(ฉันเกิดที่กรุงเทพ แต่ตอนนี้ย้ายมาอยู่ที่กาญจนบุรี)
แต่ถ้าในกรณีที่เราพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เพราะไปเป็นแบบกรุ๊ปทัวร์ ก็จะมีเจ้าหน้าที่ที่เป็นล่ามมาคอยให้บริการเราด้วย โดยเจ้าหน้าที่ล่ามจะเริ่มมาแสตนดบายตั้งแต่เวลา 08.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) เป็นต้นไปค่ะ
และหากไม่มีสิ่งใดที่เจ้าหน้าที่ ตม. เกาหลีติดใจหลังจากนั้นก็จะโดนประทับตราว่า ผ่านนน !! เย้ๆๆ สำหรับใครที่จะไปก็เตรียมตัวกันตามที่แนะนำไปข้างบนนะคะ
ไม่ต้องกังวล จะบอกว่าไม่มีอะไรน่ากลัวอย่างที่คิดค่ะ ผ่านง่ายกว่าที่นึกไว้เยอะเลย ขอให้โชคดีผ่านด่าน ตม. ทุกคนค่าาา
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จากคุณ สมาชิกหมายเลข 3914383 Pantip.com
แต่ก็มีคนที่ไปมาแล้วคือคุณ สมาชิกหมายเลข 3914383 จาก Pantip.com ได้ตั้งกระทู้มาเล่าเกี่ยวกับทริคการผ่าน ตม.เกาหลี ไว้ให้แบบละเอียดยิบ พร้อมบอกว่า มันไม่ได้เข้ายากอย่างที่ใครๆ คิด
ว่าแล้วก็มาเตรียมแพ็คกระเป๋าและเตรียมตัวให้พร้อมกันเถอะ ซึ่งขั้นแรกเลยที่จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมก็คือ
1. เรื่องการแต่งกาย : ที่ควรแต่งตัวให้เหมือนไปเที่ยว เช่น ใส่รองเท้าผ้าใบ ไม่ใช่รองเท้าแตะ และสำหรับผู้หญิงนะคะ ชุดไม่จำเป็นต้องสุภาพ แต่ขอแนะนำว่า “ไม่โป๊” จะดีกว่า
เพราะการที่เจ้าหน้าที่ ตม. เกาหลีเจอเราครั้งแรก เค้าไม่เคยรู้จักเรา ก็จะมองจากลักษณะภายนอกก่อนเลย ว่าดูน่าเชื่อถือมั๊ย เป็นนักท่องเที่ยวจริงหรือเปล่า
การแต่งกายจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ
ว่าแล้วก็มาเตรียมแพ็คกระเป๋าและเตรียมตัวให้พร้อมกันเถอะ ซึ่งขั้นแรกเลยที่จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมก็คือ
1. เรื่องการแต่งกาย : ที่ควรแต่งตัวให้เหมือนไปเที่ยว เช่น ใส่รองเท้าผ้าใบ ไม่ใช่รองเท้าแตะ และสำหรับผู้หญิงนะคะ ชุดไม่จำเป็นต้องสุภาพ แต่ขอแนะนำว่า “ไม่โป๊” จะดีกว่า
เพราะการที่เจ้าหน้าที่ ตม. เกาหลีเจอเราครั้งแรก เค้าไม่เคยรู้จักเรา ก็จะมองจากลักษณะภายนอกก่อนเลย ว่าดูน่าเชื่อถือมั๊ย เป็นนักท่องเที่ยวจริงหรือเปล่า
การแต่งกายจึงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเลยค่ะ
2. เอกสาร และสิ่งที่ควรพกติดตัว
2.1 ใบบุ๊คกิ้งเครื่องบินขากลับ เพื่อยืนยันวันเดินทางกลับของเราว่าชั้นกลับแน่ๆ จ้ะ no worries
2.2 ใบจองโรงแรม มีชื่อเรา รวมถึงระบุชื่อ ที่อยู่ และเบอร์โทรโรงแรม รวมถึงระบุวันที่ชัดเจน ว่าเราพักตั้งแต่วันไหน ถึงวันไหน เพื่อยืนยันว่ามาเที่ยว มีที่พักเรียบร้อย สามารถตรวจสอบกับทางโรงแรมได้เลย
2.3 จม. รับรองการทำงาน, นามบัตร ถ้าเป็น freelance ให้ถ่ายรูปในตอนที่เราทำงานไว้หลายๆ รูปในโทรศัพท์ค่ะ หรือถ้าเป็นแม่ค้าออนไลน์ก็ปริ๊นหน้าเว็บที่เราขายของเลยค่ะ เพื่อยืนยันว่าเรามีงานทำ มีรายได้ ไม่แอบมาทำงานในประเทศ คุณหรอก กรณีเป็นนักเรียนให้พกบัตรนักศึกษาไปด้วยค่ะ
2.4 เงินสด และบัตรเครดิต (ถ้ามี) เพื่อแสดงว่าชั้นมีเงินมาเที่ยวนะจ๊ะ ครอบคลุมค่าใช้จ่ายเพียงพอกับจำนวนวันที่จะมาเที่ยว
2.5 แผนการเดินทาง ว่าเรามีแพลนจะไปเที่ยวไหนบ้าง ในแต่ละวัน
2.6. ถ้าไปกันเป็นกลุ่ม ควรถ่ายรูปพาสปอร์ตของคนที่เราไปด้วยไว้ในโทรศัพท์ และถ่ายรูปด้วยกันไว้บ้างค่ะ
3. ทริคการผ่านด่าน ตม.
3.1 ไม่เล่นโทรศัพท์ ไม่ถ่ายรูป และคุยกันระหว่างรอคิวค่ะ (มีป้ายขึ้นเลยนะคะ ว่า No photo, No mobile)
3.2 ถ้ามาเป็นกลุ่มให้ต่อแถวเดียวกัน เพื่อที่เราจะได้คุยกับเจ้าหน้าที่ ตม. คนเดียวกัน และบอกได้ว่ามากับคนข้างหน้า/ ข้างหลังนะ แบบว่ามีคนมาด้วยกันจริง ไม่ได้มโนค่ะ และถ้าคนแรกในกลุ่มผ่านเข้าไปแล้ว คนต่อไปจะมีโอกาสผ่านสูงเลยค่ะ ถ้าเราต่อคนละแถวเพื่อนเราอาจจะผ่านเข้าไปแล้วกับเจ้าหน้าที่คนอื่น เค้าอาจจะไม่เห็นค่ะว่าเรามาด้วยกันจริงๆ
3.3 เดินเข้าไปเจอเจ้าหน้าที่ให้ ยิ้ม และทักทาย Hello ซักนิด เพื่อสร้าง First impession ค่ะ (จิตวิทยา หรา!) อันนี่ส่วนตัวคิดว่าช่วยได้นิดนึงนะคะ พอยิ้มให้ และทักทายนิดหน่อย ขุ่นพี่ ตม. เค้ายิ้มนิดๆ ตอบเราค่ะ และหน้าเค้าดู relax ขึ้น จากตอนแรกหน้าเครียดๆ และดูโหดๆ (อยากจะบอกพี่ ตม. ว่าหนูเครียดกว่าพี่อี๊กกก จะได้เข้าไหม เกาหลีเนี่ย แต่ยิ้มสู้ค่ะ ^^)
3.4 เตรียมตัวตอบคำถามเป็นภาษาอังกฤษ ถามอะไรมาควรตอบไปเลยทันที อย่าอึกอักค่ะ ไม่ต้องถึงกับภาษาเป๊ะเว่อร์ แต่สื่อสารให้เค้าพอเข้าใจได้ และรีบตอบออกไปเลย ถ้าเราคิดนานเค้าอาจจะคิดว่าเราไม่ได้พูดเรื่องจริงค่ะ (เพราะเรื่องจริงไม่ต้องคิดเยอะ)
และลำดับการเดินเข้าแถวเพื่อตอบคำถาม ตม. หากไปกันเป็นกลุ่มควรต่อแถวเดียวกันเผื่อให้ง่ายต่อเจ้าหน้าที่ในการถามว่าใครมากับใคร เพราะข้อมูลที่เจ้าหน้าที่เกาหลีได้รับมันจะต่อเนื่องเพราะเป็นเจ้าหน้าที่คนเดียวกัน และถ้าคนแรกผ่านคนต่อไปก็น่าจะผ่านง่ายขึ้นค่ะเพราะมาด้วยกัน
และคำถามที่คุณ สมาชิกหมายเลข 3914383 เจอก็คือ...
ตม. : Who do you come with? (คุณมากับใคร)
เรา : My sister and my niece. (พี่สาว และหลาน)
ตม. : Why your last name and your sister’s last name are different?
(ทำไมนามสกุลของคุณ และพี่สาวไม่ตรงกัน)
เรา : Because she got married.
(เพราะว่าพี่แต่งงาน)
ตม. : Why the place of birth in your passport and your address in arrival card are different?
(ทำไมสถานที่เกิดใน พาสปอร์ต ไม่ตรงกับที่อยู่ในบัตรขาเข้า)
เรา : I was born in Bangkok but now I move to Kanchanaburi.
(ฉันเกิดที่กรุงเทพ แต่ตอนนี้ย้ายมาอยู่ที่กาญจนบุรี)
แต่ถ้าในกรณีที่เราพูดภาษาอังกฤษไม่ได้เพราะไปเป็นแบบกรุ๊ปทัวร์ ก็จะมีเจ้าหน้าที่ที่เป็นล่ามมาคอยให้บริการเราด้วย โดยเจ้าหน้าที่ล่ามจะเริ่มมาแสตนดบายตั้งแต่เวลา 08.00 น. (ตามเวลาท้องถิ่น) เป็นต้นไปค่ะ
และหากไม่มีสิ่งใดที่เจ้าหน้าที่ ตม. เกาหลีติดใจหลังจากนั้นก็จะโดนประทับตราว่า ผ่านนน !! เย้ๆๆ สำหรับใครที่จะไปก็เตรียมตัวกันตามที่แนะนำไปข้างบนนะคะ
ไม่ต้องกังวล จะบอกว่าไม่มีอะไรน่ากลัวอย่างที่คิดค่ะ ผ่านง่ายกว่าที่นึกไว้เยอะเลย ขอให้โชคดีผ่านด่าน ตม. ทุกคนค่าาา
ขอขอบคุณข้อมูลดีๆ จากคุณ สมาชิกหมายเลข 3914383 Pantip.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น